ตอนที่ผมทำคีโต เรื่องข้อเสียเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลกันมาก เห็นมีคนถามมากมาย เช่น หลายคนเกิดอาการป่วยแบบ Keto Flu บ้างก็ไม่ติดสถานะคีโตสักที โดยส่วนตัวไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่ากังวลขนาดนั้น แค่ต้องศึกษาให้ดีก่อน ไม่ใช่โหนกระแสจนไม่รู้อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ของคีโต
ข้อเสียและอาการข้างเคียงของคีโต
- ผลข้างเคียงของการกินอาหารคีโตเจนิคประกอบด้วย
- การนอนไม่หลับ
- กลิ่นปากแรงขึ้น
- ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับ ไต โรคหัวใจ
- คนที่มีโรคทางการแพทย์บางประการ เช่น โรคตับหรือโรคไตควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารคีโตเจนิค
ในการลดน้ำหนักด้วยการบริโภคอาหารคีโตเจนิค ควรเลือกบริโภคอย่างเหมาะสมและปลอดภัยโดยพิจารณาชนิดของกรดไขมัน เพราะมีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและกระบวนการอักเสบในร่างกาย ควรเลือกบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ อาหารทะเล หรือเลือกแหล่งอาหารที่มีทั้งไขมันและโปรตีน เช่น ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ และหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมันและเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน หมูยอ กุนเชียง ลูกชิ้น เพราะมีไขมันอิ่มตัวสูง ถึงแม้จะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อย แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญเสียสารอาหารวิตามินและเกลือแร่ในร่างกายได้
วิธีป้องกันผลข้างเคียง
- เพื่อป้องกันผลข้างเคียงของการรับประทานอาหารคีโตเจนิค จำเป็นต้องบริโภคไขมันที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการบริโภคโปรตีนมากเกินไป
- ควรทานผักใบเขียวที่คาร์โบไฮเดรตต่ำให้มาก เพื่อให้ได้สารอาหารพอเพียงทั้งเกลือแร่และวิตามิน มีไฟเบอร์ที่ช่วยหลายด้าน
- ผู้ที่มีโรคเฉพาะทาง เช่น โรคตับหรือไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารคีโตเจนิค เลือกวิธีไดเอ็ตแบบอื่น
นอกจากนี้ยังสำคัญที่จะเข้าใจผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ของอาหารคีโตเจนิค เช่น “ไข้คีโต” ที่อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บหัว คลื่นไส้ และความเหนื่อยล้า ในการป้องกันไข้คีโต แนะนำให้ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตอย่างละเอียดและเพิ่มการบริโภคไขมันเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะคีโตได้อย่างช้าๆ โดยไม่ก่อให้เกิดไข้คีโต
แก้ผลข้างเคียงของคีโตได้ง่ายๆ (Avoid ALL Keto Side Effects Easily)
- ปัญหาเวลาเริ่มต้นเข้าโหมดคีโต อาจเกิดภาวะสับสนในสมอง สาเหตุมาจากการขาดวิตามินบี1และแคลเซียมเป็นต้น สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานน้ำมัน MCT หรือผลิตภัณฑ์ที่มีเกลือพอต่อร่างกาย เช่น nutritional yeast
- ปัญหากระดูกพรุน สาเหตุมาจากความเข้มข้นของกรดยูริกในปัสสาวะ สามารถแก้ไขได้โดยการดื่มน้ำมะขามเปียก พร้อมรับประทานอาหารที่เป็นกลาง และลดการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกรดออกซาเลต เช่น ถั่ว สปินและช็อกโกแลต
- ระบบทางเดินอาหาร หากมีอาการผิดปกติ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสีย สาเหตุอาจมาจากการรับประทานผักไม่เพียงพอหรือมากเกินไป สามารถแก้ไขได้โดยการปรับปรุงปริมาณผักในอาหาร
- โรคที่เกี่ยวกับเอนไซม์ส่วนย่อย หากมีอาการบวมท้อง อาจมาจากการขาดเอนไซม์ย่อยในการย่อยอาหาร สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานเอนไซม์ส่วนย่อยหรือแคลเซียม
- ระบบภูมิคุ้มกัน หากมีอาการเจ็บคอ ผมร่วง หรือมีผื่น อาจเกิดจากการแสดงอาการภูมิแพ้ที่มาจากการรับประทานนมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีนม เพื่อป้องกันปัญหานี้สามารถลดการรับประทานผลิตภัณฑ์นม และเลือกอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของนมแทนได้
- การทำงานของระบบของเลือดและหัวใจ หากมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหรือการเต้นของหัวใจผิดปกติ สามารถแก้ไขได้โดยการเพิ่มปริมาณเกลือแร่ เช่น แมกนีเซียม พอตาสเซียม และเกลือทะเล ในอาหาร
- การนอนหลับ หากมีการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต เช่น ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ เกิดจากการรับประทานเกลือสูงหรือต่ำเกินไป สามารถแก้ไขได้โดยการปรับปรุงปริมาณเกลือและรับประทานวิตามินดีเพิ่มเติม
- การตอบสนองของร่างกาย หากมีอาการไม่สบายใจหรือปวดหัว อาจเกิดจากขาดวิตามินบี1 สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทาน nutritional yeast
- การทำงานของถุงน้ำดี หากมีอาการปวดท้องด้านขวา อาจมาจากการรับประทานถั่ว โดยเฉพาะถั่วลูกดิบที่มีปริมาณโอเมก้า-6สูง ซึ่งเป็นสารที่อักเสบ ระบบถุงน้ำดี ทำให้เกิดอาการปวด สามารถแก้ไขได้โดยการลดปริมาณการรับประทานถั่ว และเลือกอาหารที่มีปริมาณโอเมก้า-3สูงแทน นอกจากนี้ การรับประทานสารอาหารเสริมที่ช่วยให้การทำงานของถุงน้ำดีดีขึ้น อาจเป็นวิตามินบีและสารอาหารเสริมสำหรับถุงน้ำดี
- กลิ่นปาก ที่เกิดจากการสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์โดยสารที่สร้างจากกระบวนการในร่างกาย สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานผักใบเขียวหรือผักใบหยิบ ซึ่งมีสารเป็นกรดซึ่งช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
- ผื่น ที่เกิดจากความต้องการของร่างกายต่อวิตามินบี2และบี3 สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทาน nutritional yeast ที่มีปริมาณวิตามินบีสูง
- โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง การทำโปรแกรมเกิดผลดีในการลดน้ำหนักและการควบคุมน้ำตาลในเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงได้
- อาการท้องเสียหรือท้องผูก สามารถแก้ไขได้โดยการปรับเปลี่ยนปริมาณผักที่บริโภค หรือเพิ่มหรือลดปริมาณได้ตามความเหมาะสม รวมถึงการเลือกอาหารที่มีความเสถียรต่อระบบลำไส้
- การสังเคราะห์ไขมันไม่เต็มที่ สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานสารอาหารเสริมไขมันที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างไขมันได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเลือกอาหารที่มีปริมาณไขมันสูงและไม่มีแป้งโดยเฉพาะ
- การทำงานของตับ สามารถแก้ไขได้โดยการลดปริมาณอาหารหรือการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนต่ำลง และเพิ่มปริมาณผักสดและผลไม้ เพื่อช่วยตับในการทำงานได้ง่ายขึ้น
- การแตกต่างของระดับน้ำตาลในเลือด สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง และลดปริมาณอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูงลง
- การออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ สามารถแก้ไขได้โดยการกำหนดเป้าหมายการออกกำลังกายให้เหมาะสมและตรงตามความสามารถของร่างกาย รวมถึงการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับระดับความพร้อมของร่างกาย
- สารอาหารที่ขาดหายไปจากการลดปริมาณอาหาร สามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานอาหารเสริมสารอาหารที่ขาดหายไป เช่นวิตามินและแร่ธาตุ และการเลือกอาหารที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
- ความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย สามารถแก้ไขได้โดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง รวมถึงการให้พักผ่อนและการนอนหลับเพียงพอเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- สุขภาพจิต สามารถแก้ไขได้โดยการให้เวลาให้กับการพักผ่อนและการทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่นการฟังเพลงหรือการทำโยคะ รวมถึงการฝึกการหายใจลึกๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและให้สุขภาพจิตดีขึ้น