Skip to content

อันตรายของไซยาไนด์ ภัยใกล้ตัวและวิธีรักษา

  • by
cyanide

ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีที่มีพิษสูงและใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การทำเหมือง, อุตสาหกรรมเคมี, การหล่อโลหะ และการผลิตพลาสติก อย่างไรก็ตาม การใช้งานสารเคมีนี้อาจนำไปสู่ผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์

 

ปริมาณไซยาไนด์ที่เสียชีวิตได้

ปริมาณไซยาไนด์ 1.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สามารถทำให้ถึงชีวิตได้ Source

หรือ คำนวณแบบง่ายๆ ในคนทั่วไป หากได้รับไซยาไนด์ในปริมาณ 2-3 กรัม ก็อาจเสียชีวิตได้

 

แหล่งที่พบไซยาไนด์ได้

  • ยาเบื่อหนู มีส่วนผสมจากไซยาไนด์
  • ในที่เกิดเพลิงไหม้ มีโอกาสที่สิ่งของเผาไหม้ จนอากาศกลายเป็น ไฮโดรเจนไซยาไนด์
  • ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) ดอกไม้สวยแต่มีสารพิษ ไม่ควรปลูกใกล้บบ้าน เพราะมีโอกาสที่จะได้รับเข้าสู่ร่างกายได้
  • บุหรี่ มีส่วนผสมที่เป็นสารไซยาไนด์

 

กลไกทำงานของไซยาไนด์

ตัวไซยาไนด์เองเมื่อเข้าสู่ร่างกายปุ๊บมันจะเข้าไปสู่อวัยวะนึงของเซลล์เราซึ่งเรียกว่าไมโทคอนเดรีย (Mitochondrion) มีหน้าที่ในการผลิตพลังงานให้ร่างกายใช้แล้วสารไซยาไนด์มันไปทำให้ไมโทคอนเดรียไม่สามารผลิตพลังงานออกมาใช้ได้ จนเกิดผลเสียต่อเซลล์

เซลล์ของเราปกติมันต้องใช้ออกซิเจนในการผลิตพลังงานร่วมกับไมโทคอนเดรีย แต่ถ้าไมโทคอนเดรียตัวนี้ทำงานไม่ได้แล้วล่ะก็ร่างกายของเรามันจะได้พลังงานมาก็ต่อเมื่อมันจะใช้วิธีที่เรียกว่า Anaerobic respiration คือ เป็นการสร้างพลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจน แต่การสร้างพลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจนนั้นมันจะได้พลังงานน้อยกว่าแบบใช้ออกซิเจนแบบเยอะมากๆ

 

อาการของผู้ได้รับไซยาไนด์

แบ่งตามอาการ

ได้รับจากยาหรืออาหาร อาการแรกก็คือจะเป็นระบบทางเดินอาหารก่อนก็จะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน บางคนท้องเสียออกเลย แล้วพอมันเข้าสู่ระบบเลือดในร่างกายแล้วล่ะก็ตอนช่วงแรก หัวใจเราจะเต้นเร็วมาก ใจสั่น มีความดันโลหิตที่สูงขึ้น แต่พอปล่อยไว้สักพักแล้วล่ะก็หัวใจเรามันขาดพลังงานมันก็จะเต้นไม่ได้ ความดันเราก็จะตก หัวใจเราก็จะเต้นผิดจังหวะ แล้วก็เสียชีวิต มันไปสู่ไต ก็จะทำให้เกิดไตวาย ไปสู่ตับ เซลล์ตับก็จะตาย ไปสู่สมองก็อาการรุนแรงทำให้เกิดการชักขึ้นมา ดังนั้นอาการพวกนี้ก็จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างเร็ว

รูปแบบอากาศพิษ อาการแรกก็จะเป็นอาการทางปอดก่อน ก็จะเป็นอาการหายใจไม่ออก มีเสมหะเยอะ แล้วมากๆก็จะไอออกมาเป็นน้ำเยอะแยะไปหมดเลย พอมันเริ่มเข้าสู่ในร่างกายปุ๊บ แน่นอนเข้าสู่สมอง สมองเราก็จะมีอาการกระสับกระส่าย เป็นมากๆก็ชักได้

การเข้าทางเยื่อเมือกที่ปาก เยื่อบุที่ปาก เยื่อบุที่ตา หรือการกินเข้าไป มันเข้าได้อีกทางหนึ่งคือทางผิวหนังแต่ทางผิวหนังนั้นส่วนมากมักจะรู้ตัวครับ เพราะว่าไซยาไนด์เวลามันโดนผิวหนังมันจะกัดผิวหนัง ทำให้เป็นแผลแล้วพอเป็นแผลปุ๊บไซยาไนด์ก็จะยิ่งเข้าไปในแผลของเราได้มากขึ้น ดังนั้นพวกนี้ก็จะเป็นอันนึงที่เรารู้ มันไม่ใช่ว่าเราป้ายโดนผิวหนังแล้วเราไม่รู้ตัว แล้วซึมเข้าผิวหนังแล้วเกิดพิษ ไม่ใช่แบบนั้น จะต้องเป็นแผลก่อน พุพองขึ้นมา ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่เขามีการฆาตกรรมกันก็จะใช้พวกโพแทสเซียมไซยาไนด์ โซเดียมไซยาไนด์ หรือพวกยาเบื่อหนูต่างๆเอามาแอบผสมในเครื่องดื่ม อาหาร ให้เรากินเข้าไป ก็จะเกิดอาการขึ้นมาภายในไม่กี่นาที

ระยะเวลา

หากได้รับพิษในปริมาณที่มากตามที่กำหนด จะแสดงอาการไม่กี่นาที และเสียชีวิตได้

หากได้รับพิษในปริมารที่น้อยกว่ากำหนด อาจใช้เวลาแสดงผลเป็นชั่วโมงและอาจรักษาได้ทัน

 

ข้อห้ามเมื่อพบผู้สงสัยว่าโดนไซยาไนด์

ถึงผู้ป่วยจะแสดงขาดอากาศ แต่ห้ามผายปอดด้วยวิธี CPR เพราะนอกจากจะช่วยไม่ได้แล้ว ยังอาจทำให้คนปฐมพยาบาลได้รับอันตรายจากสารพิษไปด้วย ให้ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมไว้

โอกาสช่วยคนที่โดนพิษไซยาไนด์เป็นไปได้น้อยมาก การทำให้ผู้ป่วยอาเจียนไม่ช่วยอะไรมากและอาจทำให้อาการผู้รับพิษแย่ลงในบางกรณี จึงไม่ควรปฐมพยาบาลด้วยตัวเอง

สิ่งเดียวที่ทำได้ คือ ให้รีบหาวิธีพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลจะดีที่สุดเพื่อรับยาที่ต้านพิษไซยาไนด์ได้

 

การตรวจหาสารไซยาไนด์ในศพ

ปกติเราเจาะเลือดจะเจาะจากเส้นเลือดดำ เลือดจากเส้นเลือดดำมันควรจะสีคล้ำ แต่ในกรณีที่เป็นพิษจากไซยาไนด์เลือดจะสีจะไม่คล้ำจะเป็นสีแดง เหตุผลเพราะว่าร่างกายไม่สามารถดึงออกซิเจนไปใช้ได้ เลือดก็เลยเป็นสีแดง

 

อธิบายลงลึกสาร Cyanide (ไซยาไนด์) ปริมาณแค่เล็กน้อยก็ฆ่าคนได้ #ฆาตกรต่อเนื่อง